ทำโปรเจคให้เสร็จด้วยการถามตัวเองว่า “ดีพอที่ผู้ใช้งานจะพอใจหรือยัง?” | Indie Hacking - LearnAlgorithm
Indie Hacking April 4, 2025
|
3 mins read

ทำโปรเจคให้เสร็จด้วยการถามตัวเองว่า “ดีพอที่ผู้ใช้งานจะพอใจหรือยัง?”

แชร์เทคนิคและวิธีคิด ที่ช่วยให้เราทำโปรเจคให้เสร็จได้ง่ายขึ้น

ทำโปรเจคให้เสร็จด้วยการถามตัวเองว่า “ดีพอที่ผู้ใช้งานจะพอใจหรือยัง?”

ย้อนกลับไปดูโปรเจคเก่า ๆ ตัวเองใน Github พบว่ามีหลายโปรเจคมากที่เราทำไม่เสร็จ แล้วไม่ได้ปล่อย ในโพสนี้เราเลยอยากจะมาแชร์เทคนิคและวิธีคิดที่ช่วยให้ทำเราทำโปรเจคได้เสร็จมากขึ้นในช่วงหลัง ๆ

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า “โปรเจคนึงมันไม่มีวันเสร็จ” สุดท้ายเราจะหาจุดปรับแก้ เพิ่มโน้นเพิ่มนี่ได้ตลอด สุดท้ายคำว่าเสร็จหรือไม่เสร็จนั้นมันขึ้นอยู่กับเรานิยาม นั่นเป็นเหตุผลที่เรามักได้ยินคำว่า “perfectionist rarely get anything done.”

อย่างไรก็ตาม สิ่งนึงที่เราค้นพบคือ

“เรามักใช้เวลาไม่นานในการทำ 80% ให้เสร็จ แต่เราอาจต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ หรือทั้งชีวิตเพื่อทำอีก 20% ที่เหลือ”

มันเหมือนกับการเรียนภาษาใหม่ ที่ถ้าหากว่าถ้าเราอยากจะสื่อสารให้ได้ในชีวิตประจำวัน (80%) เราฝึกแค่ปีเดียวก็ “ดีพอ” ที่จะสื่อสารได้แล้ว แต่ถ้าหากว่าเราอยากจะเก่งใช้ภาษาได้คล่องกับทุกสถานการณ์ (20%) เราอาจต้องใช้เวลาเป็นสิบ ๆ ปีในการฝึก

การทำโปรเจคก็เช่นกันที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากความเข้าใจนี้ได้ แทนที่เราจะ “aim for perfection” เปลี่ยนมาเป็น “ทำให้เสร็จ 80% แล้วค่อย ๆ ทำ 20% ไปทีละนิดในแต่ละวัน” แทน

สุดท้ายเรามี process ในการทำโปรเจคประมาณนี้

  1. Deadline: ตั้ง deadline ว่าจะปล่อยผลงานเมื่อไหร่​ (เช่นภายในสัปดาห์หน้า)
  2. Make it good enough: “สิ่งที่เราทำดีพอที่ผู้ใช้งานจะพอใจหรือยัง?” อาจจะใช้แล้วมีเรื่องหงุดหงิดบ้าง แต่ถ้ามันแก้ปัญหาได้และผู้ใช้พอใจ ก็ถือว่า good enough
  3. Consistent small update: เช่น “เราจะแบ่งเวลามาค่อย ๆ ปรับโปรเจคเราวันละ 1 ชั่วโมง ไปอีกตลอด 1 เดือน”

โดยเฉพาะข้อ (3) นี่เราทึ่งทุกครั้งว่าเราสามารถทำโปรเจคใหญ่ ๆ หรือ tool ที่ polished มาก ๆ ได้ด้วยเวลาแค่ 1 ชั่วโมงต่อวัน; ซึ่งถ้าหากว่าเราพยายาม polished ทั้งหมดนั้นแต่ครั้งแรก เราคงจะไม่ได้เริ่มทำด้วยซ้ำ “เพราะแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว”

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าผลงานอย่าง Mona Lisa หรือ Adoration of the Magi และอีกหลาย ๆ ผลงานของ Leonardo da vinci เป็นผลงานที่เขามองว่าไม่เสร็จ (พี่แกขึ้นชื่อเรื่องนี้มาก 😆 แต่ยังไงก็เทพอยู่ดี 🙏) และไม่ได้ปล่อยในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเรามองว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก

อย่าให้ความ perfection มาทำให้โปรเจคเราไม่เสร็จ และหวังว่าไอเดียเล็ก ๆ นี้จะช่วยให้หลาย ๆ คนทำโปรเจคได้เสร็จเยอะขึ้นครับ

“If you are not embarrassed by the first version of your product, you’ve launched too late.” — Reid Hoffman, LinkedIn/Greylock

Chun Rapeepat

Rapeepat Kaewprasit (Chun)

คน ๆ หนึ่งที่ชื่นชอบในการสร้าง การทำธุรกิจ และการได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ